Monday, September 17, 2012

Warren Buffett วอร์เรน บัพเฟตต์

มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก

 มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์  มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31,000 ล้านดอลล่าร์

1. เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!
2. เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์
3. เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮาที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม
4. เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน
5. เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
6. บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ
7. เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1
8. เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์
9. บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์
10. วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
11. เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า: จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง




ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง
๑. มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม 1 มื้อ เท่ากัน
๒. มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน
๓. มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
๔. มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน

มองทะลุวัตถุนิยม และเห็นความหมายที่แท้จริงของชีวิต

        บิล เกตส์ และ วอร์เรน บัฟเฟตต์  เศรษฐีทั้ง 2 คนนี้ไม่ใช่คนมีเงินมีทองธรรมดา แต่มีทรัพย์สินมหาศาลเป็นหมื่น ๆ ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนติดอันดับทำเนียบนักธุรกิจที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกทั้งคู่จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ นิตสารธุรกิจ-การเงินชั้นแนวหน้าของโลกเรื่องเศรษฐีใจบุญ
          

       
บิล เกตส์นั้น เป็นเจ้าของบริษัท ไมโครซอฟต์ ยักษ์ใหญ่ในวงการซอฟต์แวร์โลก ถือเป็นนักธุรกิจที่รวยที่สุดในโลก เพราะมีเงินอยู่ถึง 51,000  ล้านดอลลาร์   ก็จะไม่ให้รวยได้ยังไงไหวละก็ธุรกิจคอมพิวเตอร์ของเขานั้น ทำเงินให้ถึง  250  ดอลลาร์ต่อวินาที คิดเป็น 20 ล้านดอลลาร์ต่อวัน และ  7,800  ล้านดอลลาร์ต่อปีทีเดียว
          
ส่วน วอร์เรน บัฟเฟตต์ วัย 75  ปี นั้น ชื่อเสียงอาจไม่คุ้นหูคนไทย แต่ในแวดวงตลาดการเงินโลกแล้วเขาดังมาก พอ ๆ กับบิล เกตส์ทีเดียว

           บิล เกตส์นั้นเป็นอัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์ ส่วนวอร์เรน บัฟเฟตต์ ฉกาจฉกรรจ์ด้านการลงทุน ถือเป็นนักลงทุนที่เก่งที่สุดเท่าที่ตลาดวอลล์สตรีทเคยมีมาทีเดียว

           
บัฟเฟตต์ สามารถเพิ่มราคาหุ้นกองทุน Berkshire ของเขาถึง 3,600  เท่า จนกลายเป็นเศรษฐีอันดับ 2 ของโลกด้วยสินทรัพย์  40,000  ล้านดอลลาร์

          แม้บิล เกตส์ เป็นคนรวยหมายเลข 1 ของโลก ส่วนบัฟเฟตต์เป็นหมายเลข 2 แต่ทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้ปึกกัน ระหว่างคนทั้ง 2  ไม่จำเป็นต้องแข่งขันหรือชิงดีชิงเด่นกันในเรื่องความมั่งมี เพราะต่างก็เป็นสุดยอดในวงการของตัวเอง เรียกได้ว่าเส้นทางชีวิตได้เดินทางมาถึงจุดสูงสุดแล้ว หรืออาจจะเกินฝั่งฝันเสียด้วยซ้ำไป

        
อย่างไรก็ตาม ความเป็นสุดยอดของทั้งคู่ที่โลกทั้งโลกต้องยกย่องและคารวะให้อย่างหมดใจนั้น หาได้อยู่ที่ตัวเลขความร่ำรวย หรือความเป็นนักธุรกิจที่เก่งฉกาจไม่ แต่อยู่ตรงที่ความเป็นคนที่มีมนุษยธรรม มีหัวใจแห่งความเมตตา และมีปรัชญาการดำรงชีวิตที่ดีงาม.